Smart Home 2022 เริ่มต้นยังไง

มาทำ Smart Home ปี 2022 กัน

ในปัจจุบันนี้การทำ Smart Home 2022 ไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ สามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นจากร้านค้า Shopping Online หรือห้างร้านใหญ่ๆ เช่น HomePro ก็มีขายมากขึ้น แถมยังราคาถูกลงมาก ผู้เขียนเองเริ่มสนใจ Smart Home ตั้งแต่ยุกแรกๆ ได้ทดลองทำ Smart Home ด้วยตัวเอง ต้องบอกตามตรงเลยหมดเงินไปเยอะเหมือนกัน (สมัยนั้นอุปกรณ์ยังราคาแพง แถมยังซื้อมาลองผิดลองถูก ไม่ได้มีรีวิวเยอะเหมือนสมัยนี้) 

ในปีนี้ยังถือเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มการทำ Smart Home 2022 เนื่องด้วยอุปกรณ์มีความหลากหลาย มีขายในบ้านเรา ราคาจับต้องได้ และยังจะเป็นที่ที่คาดว่า Matter จะมา ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ต่างๆ สามารถสื่อสารกันได้ ซึ่งจะลดข้อจำกัดในการทำ Smart Home แบบเดิม เช่นมี หลายApplication อุปกรณ์แต่ละค่ายใช้ร่วมกันไม่ได้ เป็นต้น 

อุปกรณ์ Smart Home ในความเข้าใจของผมคือ

  • อุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อระบบ Network ของบ้านได้ 
  • สามารถทำงานผ่าน Application ต่างๆ ได้
  • สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ 
  • สามารถทำ Automation เพื่อให้เกิดการทำงานอัตโนมัต เช่น ไฟเปิดอัตโนมัต เมื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ เปิดปิดอุปกรณ์ตามเวลาที่กำหนดได้ 

การทำ Smart Home ต้องรู้อะไรบ้าง

อย่างแรกเลย ระบบ Network และ Internet  

  • ไวไฟต้องครอบคลุมทั่วบ้าน ถ้าไม่ครอบคลุม สามารถแก้ไขโดยการเพิ่มตัวกระจายสัญญาน(Access Point) ซึ่งต้องมีการเดินสาย Lan เพิ่มขึ้นมา อาจจะยุ่งยากสำหรับหลายคน หรือจะเลือกการทำ Mesh Wifi เพียงซื้อ Router ที่รองรับการทำ Mesh Wifi  เพื่อกระจายสัญญานแทน ก็น่าจะสะดวกมากขึ้นสัญลักษณ์ไวไฟ
  • Router ที่แถมมากับผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น 3BB, AIS ฯลฯ มักมีการจำกัดจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อ Router โดยส่วนใหญ่ประมาณ  20-30 อุปกรณ์ การทำ Smart Home นั้นอุปกรณ์ที่จะเชื่อมต่อ Router ค่อนข้างมาก จึงแนะนำให้ซื้อ Router ใหม่มาเพิ่ม เลือกที่มีคุณภาพดีหน่อย ราคาอาจจะแพง แต่รับรองว่าใช้งานได้ดีกว่า  แล้วมาต่อเป็น Bridge Mode เพื่อต่อ Internet และปล่อย IP แทน จะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากกว่า Router ตัวแถม
  • ควรแยกสัญญานไวไฟในบ้านทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz ตั้งเป็นคนละชื่อ เพราะ Smart Device ในปัจจุันส่วนใหญ่จะรองรับการเชื่อมต่อกับไวไฟที่คลื่นความถี่ 2.4 GHz เท่านั้น ไม่รองรับการเชื่อมต่อไวไฟที่คลื่นความถี่ 5 GHz  การแยกชื่อสัญญานไวไฟตามคลื่นความถี่นั้น เพื่อเวลาทำการเชื่อมต่อจะได้เลือกสัญญานไวไฟ 2.4 GHz ได้ถูก ช่วยลดปัญหาการเชื่อมอุปกรณ์ไม่ได้ 

ทำความรู้จักสัญญานวิทยุที่ใช้ใน Smart Home 

Wifi Symbol
Illustration of wi-fi signal isolated on background

Wifi

ไม่ต้องพูดมากทุกคนคงรู้จักกันพอสมควร 

Router จะปล่อยสัญญานไวไฟ ซึ่งมีสองคลื่นความถี่คือ 2.4 GHz และ 5 GHz ; Smart Home Devices ส่วนใหญ่รองรับสัญญาไวไฟเฉพาะที่คลื่นความถึ่ 2.4 GHz เท่านั้น

ข้อดี อุปกรณ์ที่รองรับ Wifi หาซื้อง่าย และราคาไม่แพงมาก ติดตั้งได้ง่าย 

ข้อเสีย ใช้ประสิทธิภาพการทำงานของRouter ค่อนข้างหนักในการแจก IP ถ้ามีอุปกรณ์มากช่องสัญญานไวไฟอาจจะเต็ม และอาจรบกวนการใช้งานอุปกรณ์อื่นๆ 

Zigbee

ต้องมี Hub ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ลูก (Child Device) ซึ่ง Hub เชื่อมต่ออุปกรณ์ลูกด้วยสัญญาน Zigbee และ Hubเชื่อมต่อกับ Router ด้วยสัญญานไวไฟ

ข้อดี อุปกรณ์ที่รับส่งด้วยZigbee ใช้พลังงานต่ำ ทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวกินไฟน้อย  ใช้แบตเตอรี่ 1ก้อนอยู่ได้เป็นปี 

       ขยายระบบได้ง่าย  รองรับ Mesh อุปกรณ์ที่เสียบปลั๊กมักจะทวนสัญญานเองได้ ทำให้สัญญานครอบคลุมได้มากขึ้น

ข้อเสีย Zigbee ยังถูก Lock สื่อสารระหว่างแบรนด์อื่นไม่ได้ 

Bluetooth

ใช้ Hub ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์เช่นเดียวกับ Zigbee และอุปกรณ์ใช้พลังงานต่ำเช่นกัน แต่ข้อเสียคือ ส่งสัญญานครอบคลุมพื้นที่น้อยกว่า Zigbee 

Thread Symbol

Thread

ผมเองยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ เนื่องจากมีอุปกรณ์รองรับไม่มาก พัฒนาขึ้นต่อจาก Zigbee มีมาตรฐาน IEEE 802.15.4 เช่นเดียวกัน

ข้อดี ใช้พลังงานต่ำ, แต่ไม่มี Hub แต่มี Border Router ในการเชื่อมต่อกัน ขยายระบบง่าย 

ข้อเสีย อุปกรณ์รองรับน้อย ราคายังสูงอยู่

ปัญหาของการทำ Smart Home ในปัจจุบันคือ อุปกรณ์แต่ละค่ายจะมี Application ของตัวเอง และยังไม่สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ และแอพพลิเคชั่นของค่ายอื่นได้ ปัญหานี้จะลดลงไป โดยกลางปีนี้จะมีการเปิดตัว Matter ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์ต่างๆ และ รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ 

 

ใครที่จะเริ่มทำ Smart Home ผมแนะนำให้เริ่มที่ปลั๊กไฟ และ สวิตซ์ไฟก่อน แล้วท่านจะติดใจ อุปกรณ์อื่นๆ จะค่อยๆตามมาเอง

Smart Plug  มีให้เลือกมากมาย หลายแบรนด์ มีทั้งรองรับสัญญาน Wifi และ Zigbee 

Smart Switch สิ่งที่ต้องรู้ก่อนคือ การเดินสายไฟไปยังSwitchไปในบ้านเรานั้น นิยมเดินสาย Neutral บนเพดาน ไม่ได้เดินมาที่Switch; ซึ่ง Smart Switch ส่วนใหญ่ต้องเดินสาย Neutral มาที่ Switchด้วย จึงเป็นความยุ่งยากอย่างหนึ่งในการทำ Smart Switch ถ้ากำลังสร้างบ้านใหม่อยู่แล้ว ก็ควรเดินสายไฟ Neutral ไปที่สวิตซ์ให้เรียบร้อยจะได้ไม่มีปัญหาตอนการตั้ง Smart Switch ในภายหลัง

Smart Plug and Switchจากปัญหาดังกล่าวปัจจุบันนี้ได้มีหลายแบรนด์พยายามทำให้ Smart Switchที่ไม่ต้องเดินสาย Neutral ไปที่ต้วสวิตซ์ ทำให้เพิ่มความสะดวก สำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ Smart Switch สามารถมาใช้ได้เลย โดยไม่ต้องยุ่งยากเดินสายไฟใหม่ 

Smart Switch ส่วนใหญ่ จะมีความหนาที่มากกว่า Switchปกติ จึงต้องเลือก Box ที่เหมาะสมกับสวิตซ์ด้วย 

การทำ Smart Plug และ Switch เพิ่มความสะดวกมากให้รับเรา  ยกตัวอย่างเช่นเวลาง่วงนอนมากๆ ไม่ต้องแบกร่างลุกขึ้นมาปิดไฟ ตั้งเวลาเปิดปิดไฟอัตโนมัตได้ เปิดปิดพัดลมผ่านทางมือถือ หรือจะใช้ Wireless Switch มาช่วยอำนวยความสะดวกได้อีกมากมายเลย สุดท้ายผมหวังว่าพวกเราจะได้รับความสะดวกสบายเพิ่มขึ้นจาการทำSmart Home นะครับ

หวังว่าผู้ที่สนใจในการทำบ้านอัจฉริยะ หรือว่า Smart Home นั้นจะได้รับประโยชน์นะครับ

สำหรับผู้ที่สนใจจะศึกษาการเริ่มต้นทำ Smart Home ผมมีวีดีโอใน Youtube ซึ่งอธิบายการทำบ้านอัจฉริยะได้อย่างดี เอามาฝากครับ ตรงนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *