Aqara G3 Mars (รีวิว)

Aqara G3 Mars

Aqara G3 Mars เป็นกล้องวงจรปิดรุ่นลิมิตเด็ตจากแบรนด์ Aqara ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษที่ทำออกมาเพื่อเอาใจผู้ชื่นชอบโดยเฉพาะ โดยมีสเปกเช่นเดียวกัน Aqara G3 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ต่างกันที่หน้าตาคิคุ ตะมุตะมิ ด้วยดีไซด์ที่เป็นนมนุษย์อวกาศ ยิ่งถ้าใครชอบแนวนี้ ก็ยิ่งหลงรักเลย  มาพร้อมกล่องทรงสี่เหลี่ยมสีเทา เมื่อเปิดกล่องออกมาตัวกล้องและอุปกรณ์ต่างในกล่องจะค่อยๆ ขยับขึ้นมาด้านบน เหมือนกำลังเคลื่อนขึ้นเวทีแสดง ก็ดูเท่ห์ไม่หยอก ผมซื้อกล้องตัวนี้จาก Aliexpress เช่นเดิม โดยวัดใจว่าจะส่งของมาจริงหรือเปล่า สรุปว่าส่งของมาจริง การซื้อดังกล่าวก็ใช้ Shopback ด้วย ซึ่งจะได้เงินคืน 31.16 บาท (ซึ่งต้องรออนุมัติประมาณ 3 เดือน)

สเปก   

  • เป็นกล้องที่วงจรปิดที่รองรับ HomeKit & HomeKit Secure video
  • นอกจาก HomeKit แล้วกล้องรุ่นนี้ยังรับรอง Google Home, Amazon Alexa อีกด้วย
  • ความละเอียดเวลาบันทึกวีดีโอ ระดับ 2K 
  • ตัวกล้องเป็น Zigbee 3.0 hub สามารถมีอุปกรณ์ลูกเชื่อมต่อได้มากถึง 128 อุปกรณ์
  • Pan/tilt control หมุนได้ 360 องศา และก้มเงยได้ 45 องศา มาพร้อมเลนส์มุมกว้างที่มีองศาการรับภาพ 110 องศา ทำให้หมุนกล้องดูได้รอบด้าน โดยแทบไม่มีจุดบอด
  • มีระบบการแจ้งเตือน Four mode alarm/siren
  • สายไฟเป็นพอร์ต USB-C 
  • รองรับ MiroSD Card ในการบันทึกวีดีโด สูงสุด128 GB
  • ความพิเศษ คือมี AI ช่วยจดจำท่าทาง( Gesture recognition) ได้5แบบ ซึ่งการสามารถนำไปใช้ในการกำหนด Automation ได้ , และยัง AI ช่วยจดจำใบหน้าได้ (Facial recognition)
  • ยังมีความสามารถเป็นรีโมท (Built-in IR blaster) เพิ่มการควบคุมอุปกรณ์ที่ใช้ IR เช่น โทรทัศน์ พัดลมบางรุ่น 
  • มีฟังก์ชันแพนกล้องตามการเคลื่อนไหวของคนและสัตว์ (Human and pet motion tracking)
  • ขนาดประมาณ : 123 x 85 x 67mm (H, W, D)
  • รองรับการเชื่อมต่อไวไฟสองคลื่นทั้งความถี่ 2.4 GHz และ 5.0GHz (ซึ่งกล้องรุ่นอื่นๆ ส่วนใหญ่จะรองรับแค่ 2.4 GHz)
  • รองรับ 2 Way Communication มีไมค์ และลำโพงในตัว ทำให้พูดคุยสื่อสารได้ กับคนที่ใช้แอพพลิเคชั่นปลายทาง (ส่วนตัวลองใช้แล้ว รู้สึกว่าเสียงที่พูดออกจากลำโพงกล้องเบาไปหน่อย)

แกะกล่อง

ผมสั่งกล้องนี้จาก Aliexpress การแพคสินค้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ทำให้ภายนอกกล่องที่ส่งมามีรอยบุบเล็กน้อย ส่วนตัวกล้องนั้นไม่มีปัญหาอะไรครับ ก่อนส่งมาทางเจ้าของร้านขอเปิดกล่องออกมาก่อน เพื่อที่จะได้แพคภายในกล่องไม่ให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากในกล่องมีช่องว่างพอสมควรถ้าการขนส่งไม่ดีกล้องจะได้รับความเสียหายได้ ผลปรากฎว่าของภายในกระจัดกระจาย แต่ไม่ได้รับความเสียหาย กล้องรุ่นนี้มาพร้อมกล่องสีเทา ด้านบนเขียนว่า Aqara Mars Exploration G3, ตัวอักษร G3 ลักษณะแวววาวสะท้อนแสงเป็นสีรุ่ง ด้านในจะถูกแบ่งเป็นช่องๆ มีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ที่ฝาเปิดของกล่องทั้งสองข้างจะมีริบบิ้นอยู่ เพื่อใช้ดึงฐานของตัวกล่องค่อยๆยกขึ้นมาเวลาเปิดกล่อง

  • กล่อง Aqara G3
  • กล่อง Aqara G3 ค่อยๆ เปิดขึ้น
  • กล่อง Aqara G3 ค่อยๆ เปิดขึ้น
  • กล่อง Aqara G3 ค่อยๆ เปิดขึ้น
  • กล่อง Aqara G3 เปิดเต็มที่แล้ว

อุปกรณ์ภายในกล่องประกอบด้วย 

  1. ตัวกล้อง Aqara G3 Mars
  2. กระเป๋าสะพายหลังของนักบินอวกาศ
  3. กล่องที่ใส่สายไฟและอะแดปเตอร์
  4. คู่มือภาษาจีน 

การดีไซน์

เป็นกล้องสีขาว ที่เน้นการสกรีนบนตัวกล้องด้วยสีส้มแดง ทำให้ดูโดดเด่นขึ้น มีตัวอักษร G3 ขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน

ด้านหน้า ส่วนหัวเป็นเลนส์กล้อง และส่วนลำตัวมีวงกลมซึ่งจะแสดงสถานะไฟ และเป็นปุ่มรีเซ็ต โดยจะสกรีนสีส้มล้อมรอบเป็นวงกลมดูสะดุดตา โดยจะแสดงสถานะไฟเป็นสีต่างๆ ดังนี้

  • สีฟ้า สถานะทำงานปกติ
  • สีแดง มีคนกำลังดูกล้องผ่านแอพฯ(Streming)
  • สีม่วง กำลังจับคู่กับอุปกรณ์ลูกอื่นๆ (Pairing)
  • สีเขียว Gesture Mode

ด้านหลัง มีช่องเสียบไฟเป็นแบบ USB C เหนือขึ้นมาที่ตัวกล้องมีลำโพงเพื่อใช้ในการสื่อสารแบบ 2 Way ได้ ใต้ลำโพงจะสกรีน “Aqara Space Lab” นอกจากนี้ที่สวนหัวของกล้องจะมีสกรีนเช่นกัน โดยจะสกรีนว่า ” No. 42 That ‘s The Answer ”  

ด้านข้าง ทั้งสองฝั่งไม่มีอะไรโดดเด่น โดยด้านหนึ่งจะสกรีน ” 20 Sept 2021″ อีกด้านหนึ่งจะสกรีนว่า ” Mars Exploration ” พร้อมทั้งมีช่องด้านข้างสองข้าง ผมเดาว่าน่าจะเป็นช่องไมโครโฟน ซึ่งในรุ่น G3 ธรรมดาไม่มี

ด้านล่าง มีช่องสำหรับสกรู และมี Setup Code สำหรับ Apple Homekit 

ด้านหน้า

ด้านหลัง

ด้านข้าง

ด้านบนและด้านล่าง

การใช้งาน และประสิทธิภาพ

กล้องวงจรปิดตัวนี้ เป็นกล้องที่หมุนได้ 360 องศา ติดตั้งได้ไม่ยาก แนะนำให้ติดตั้งในแอพพลิเคชั่น Aqara ก่อน ซึ่งในขั้นตอนการเชื่อมต่อนั้นจะมีขั้นตอนให้เชื่อมต่อไปในแอพพลิเคชั่น Home ด้วยเลย ทำให้สามารถใช้งานกล้องตัวนนี้ด้วย Apple HomeKit ได้ และยังสามารถใช้ HomeKit Secure video ด้วย นอกจากความละเอียดในการบันทึกวีดีโอได้ถึง 2K บอกได้เลยว่าคุณภาพดีมากภาพชัดเจน ตัวกล้องยังมีความสามารถมากมายเช่น ทั้งยังเป็น Zigbee Hub ที่รองรับอุปกรณ์ได้มากถึง 128 อุปกรณ์ สามารถจดจำใบหน้าได้ สามารถจดจำท่าทางได้ถึง 5 แบบ ยังสามารถแพนกล้องติดตามการคลื่นไหวของของและสัตว์ได้  

การติดตั้งกล้องเข้าในแอพพลิเคชั่น Aqara 

  1. เข้าแอพฯ Aqara แล้วกดปุ่มบวก ตรงมุมบนขวามือ 
  2. หน้า Add Accessory ให้หา Camera Hub G3
  3. กดเลือก Agreement and Continue ตรงนี้จะเป็นนโยบายความเป็นส่วนตัว อ่านก่อนก็ได้ครับ แต่ผมไม่ได้อ่าน
  4. ทำการรีเซ็ตกล้อง โดยการกดปุ่มกลมๆ ที่ตัวกล้องนานประมาณ 10 วินาที จนได้ยินเสียงพูด (มักจะถูกตั้งไว้เป็นภาษาจีนจากโรงงาน)
  5. เมื่อได้ยินเสียงพูดแล้ว ติ๊กเครื่องหมายถูกแล้วกด Next
  6. ใส่รหัสไวไฟของเรา กล้องตัวนี้รองรับไวไฟทั้ง 2.4 GHz และ 5.0 GHz
  7. ทำการ Scan QR Code จะมี QR Code ปรากฏในมือถือเรา ให้เรานำ QR Code ในมือถือไปวางหน้ากล้อง เพื่อให้กล้องอ่าน QR Code หลังจากกล้องอ่าน QR Code แล้วจะได้ยินเสียงพูด ให้ติ๊ก ถูก แล้วกด Next ทำตามขั้นตอนต่อไปจนเสร็จสินกระบวนการ

หน้าตาและสัญลักษณ์การใช้งานเบื้องต้นของกล้อง Aqara G3

เมื่อติดตั้งกล้องในแอพพลิเคชั่น Aqara เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถใช้งานกล้องได้เลย โดยการใช้งานกล้องจะมีรายละเอียดยิบย่อยค่อนข้างมาก จึงทำเป็นรูป แล้วสรุปการใช้งานเบื้องต้นดังรูปข้างล่าง ส่วนใครที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามมาได้ครับ

ส่วนการใช้งาน Aqara G3 ในแอพพลิเคชั่น Home นั้นค่อนข้างจำกัด สามารถดูวีดีโอแบบ Live ได้ สามารถพูดสื่อสารเป็น 2 Way ได้ แต่ถ้าไม่ได้ใช้ HomeKit Secure video จะไม่สามารถดูวีดีโอย้อนหลังได้ (แต่ก็สามารถไปดูในแอพฯ Aqara แทนได้ครับ) หน้าตาในแอพพลิเคชั่น Home ก็ตามข้างล่างครับ

หน้าตาใน App Home ของกล้อง Aqara G3

การเปลี่ยนภาษาพูดของกล้อง G3 และการจัดการ Micro SD Card

เมื่อติดตั้งกล้องเสร็จแล้ว เราสามารถเปลี่ยนให้กล้องพูดภาษาอื่นได้ ตอนนี้มีให้เลือกแค่ภาษาจีนและภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยขั้นตอนการเปลี่ยนภาษาสามารถทำได้ตามภาพข้างล่างนี้ 

  1. เข้าแอพพลิเคชั่น Aqara แล้วไปกดเลือกที่กล้อง Aqara G3 Camera
  2. เมื่อเข้าในหน้ากล้องแล้ว ให้กดจุด 3 จุด ที่มุมบนขวามือ
  3. จะเข้าไปยังหน้า Setting ของกล้อง ให้เลือกไปที่ More Setting 
  4. เข้าไปยังหน้า More Setting แล้ว ให้เลือก Camera Settings
  5. เมื่อเข้าสู่หน้า Camera Setting ให้มองไปข้างล่างจะมี Language ให้เปลี่ยนภาษาเป็น ภาษาอังกฤษ แล้วปรับระดับความดังเสียง ตามความเหมาะสม
  6. นอกจากเลือกภาษาแล้ว ใน Camera Settings ยังมีหัวข้อการจัดการ SD Card ก็สามาระเข้าไป Set ได้ ในหัวข้อนี้ ยังสามารถทำการ Format ตัว Micro SD Card กำหนด Mode การบันทึวีดีโอ เป็นบันทึกตลอดเวลา บันทึกเมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว หรือไม่บันทึกวีดีโอก็ได้ และยังสามารถกำหนด Loop Record ให้กับ Micro SD Card ได้ 

การเพิ่มใบหน้าให้ AI จดจำ

การเพิ่มใบหน้านั้นจะมีประโยชน์ในการทำ Home Automation ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตรวจพบใบหน้าที่เราบันทึกไว้ให้เปิดไฟ เปิดพัดลม เป็นต้น ซึ่งการเพิ่มใบหน้าให้ AI จำได้นั้นไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อนอะไรเลย เพียงแค่ไปที่ More Setting ซึ่งการไปที่ More Setting สามารถทำได้เหมือนกันกับการเปลี่ยนภาษาพูด(ข้อ 1-4) ตามข้างบนเลยครับ เมื่อเข้ามายังหน้า More Setting ก็เลือกไปที่ Face Management แล้วทำตามรูปด้านล่างได้เลยครับ

การใช้ Gesture Identification

สามารใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันนี้ โดยการทำ Home Automation ในที่นี้ผมยกตัวอย่างการทำ โดยกำหนดว่าเมื่อโชว์ 5 นิ้วที่หน้ากล้อง ให้ทำการเปิดปิดโทรทัศน์ โดยสามารถทำตามรูปภาพด้านล่างเลย โดยเข้าไปในแอพพลิเคชั่น Aqara ก่อน

การใช้งาน Gesture นั้นมีข้อจำกัด โดยถ้าเลือกใช้งาน Gesture Identification แล้ว จะไม่สามารถใช้งานฟังก์ชัน Face Recognition ไปพร้อมๆ กัน น่าจะเป็นข้อจำกัดของ Software ครับ

สุดท้ายแล้วผมเอารูป Aqara G3 และ  Aqara G3 Mars มาฝากครับ น่ารักทั้งคู่เลย

ตัว Aqara G3 นั้นไมสามารถติดตั้งกระเป๋าสะพายหลังของรุ่น Mars ได้ครับ อาจเนื่องจากไม่มีแม่เหล็กรองรับ

  • ด้านหน้า Aqara G3 and G3 Mars
  • ด้านหลัง Aqara G3 และ G3 Mars
  • ด้านหลัง Aqara G3 และ Aqara G3 Mars
  • ด้านหลัง Aqara G3 และ G3 Mars
  • ด้านข้างอีกด้าน Aqara G3 และ G3 Mars
  • ด้านข้าง Aqara G3 and G3 Mars
  • Aqara G3 และ G3 Mars
  • ใส่หูกระต่ายให้กับ Aqara G3 Mars

สรุป

Aqara G3 Mars เป็นกล้องวงจรปิดรุ่นลิมิตเต็ด ที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณภาพ การใช้งานที่หลากหลาย ทำงานร่วมกับ Home Automation ได้อย่างดี ทั้งยังเป็นกล้องที่มีความละเอียดมากถึง 2K; และยังเป็น Zigbee Hub ภายในตัว รองรับไวไฟทั้ง2.4 GHz และ 5.0 GHz เพิ่มความสะดวกในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ขึ้นไปอีกขั้น 

สำหรับข้อเสียนั้น ก็คงเป็นเรื่องราคา และฟังก์ชัน Gesture Identification ที่เมื่อเปิดใช้แล้ว ฟังก์ชันอื่นๆ เช่น Face Recognition จะใช้ไม่ได้ และยังมี Gesture Identification เพียงแค่ 5 แบบเท่านั้น น่าจะทำได้มากกว่านี้ 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *