ประคบเย็น หรือประคบร้อนดี ?

การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องนั้น จะทำให้โรคหรือการเจ็บป่วยหายเร็วขึ้น แต่ถ้าเลือกผิดชิวิตก็อาจจะเปลี่ยนได้ โรคหรือการเจ็บป่วยอาจจะหายช้า หรือมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ โดยเฉพาะเรื่องการประคบเย็น หรือประคบร้อน ยังคงมีคนเข้าใจผิดกันเยอะ ผมยังเจอบ่อยๆ เวลาที่อยู่เวรห้องฉุกเฉิน ก็ทำได้แค่ให้คำแนะนำวิธีการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง และหวังว่าในครั้งต่อๆ ไปผู้ป่วยจะใช้สิ่งที่ได้แนะนำไปดูแลตัวเอง และคนรอบข้างได้อย่างถูกต้อง

เวลาเกิดอุบัติเหตุเช่น ข้อเท้าพลิก หรือการชนกระแทก จะมีอาการปวด บวม ช้ำ บริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ บางครั้งอาจถึงขั้นกระดูกแตกหัก หลักการดูแลเบื้องต้น คือลดการบาดเจ็บที่อาจจะเพิ่มขึ้น และลดกระบวนการการอักเสบให้ได้มากที่สุด ซึ่งสามารถทำได้โดยการประคบเย็น และยกอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บ(มือ, เท้า)ให้สูงขึ้น พยายามขยับอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บให้น้อยลง เพื่อทำให้กระบวนการอักเสบไม่ดำเนินไปมากกว่านี้ การประคบเย็นจะทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้นหดตัว​ ซึ่งจะช่วยให้ลดกระบวนการอักเสบ ลดการบวม และยังช่วยลดปวดได้ด้วย โดยทั่วไปแล้วกระบวนการอักเสบจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากตอนเกิดอุบัติเหตุ และจะมากที่สุดใช้เวลาประมาณ 24 -48 ชั่วโมง หลังจากนั้นกระบวนการอักเสบจะค่อยๆลดลง จึงไม่แปลกที่หลังเกิดอุบัติเหตุ ผู้ป่วยส่วนหนึ่งมีอาการปวด บวม ช้ำไม่มากยังเดินได้ แต่พอวันถัดมามีอาการปวด บวม ช้ำมากขึ้น จนต้องมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่ถ้าในช่วง 24 – 48 ชั่วโมงแรกได้รับการปฐมพยาบาลที่ถูกต้อง กระบวนการอักเสบจะดำเนินไปไม่มาก ทำให้อาการปวด บวม ช้ำน้อยกว่า และมีผลต่อการรักษาหายได้เร็วกว่า

ในทางกลับกันเวลาเราทำงานหนักๆ นั่งนานๆ กล้ามเนื้อมีอาการหดเกร็งมาก บางคนปวดหลัง ปวดเมื่อยไหล่ ปวดต้นคอ ถึงขั้นเป็น Office Syndrome หรือบางคนไปออกกำลังกายหักโหมมากไปกล้ามเนื้อมีอาการหดตัว บางครั้งเกิดเป็นตะคริว การรักษาในกลุ่มนี้จะเน้นการทำให้กล้ามเนื้อมีอาการคลายตัว โดยการประคบร้อน นวดน้ำมันร้อน จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว เส้นเลือดขยายตัวเลือดไปเลี้ยงอวัยวะที่ปวดเมื่อยมากขึ้น ทำให้อาการปวดเมื่อยบรรเทาลงได้ 

พอจะสรุปง่ายๆ ตามรูปข้างล่างนี้ครับ

สรุปสั้นๆ เลยนะ

อ่านเพิ่มเติม 👉 Rama Channel

ติดต่อสอบถาม 👉 ทางนี้ครับ